ก็ฟัง เพลงนี้ ที่นัก cover ทั้งหลายร้อง cover ให้ฟังมานานมากๆ
เพิ่งมีโอกาสได้มานั่งฟังต้นฉบับพร้อมนั่งดู MV เพลงนี้ไปพร้อมๆ กัน
ก็รู้สึกว่า เป็น MV ที่สะท้อนสังคมอยู่มากเหมือนกัน เพียงแต่ว่าสะท้อนออกมา 2 ด้าน
เนื้อหาค่อนข้างรุนแรงสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 พอสมควร เพราะต้องใช้วิจารณญาณ
ในการรับชมด้วย เพราะถ้าหากดูๆ ไปแล้วก็อาจจะกลายเป็นมองแต่ด้านร้ายของสังคม
และสามารถเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้นได้เหมือนกัน
ตัวเอกที่ดำเนินเนื้อเรื่องใน MV นี้เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีพ่อติดคุก
ชีวิตไม่มีความสุข โตมากับความรุนแรงที่พ่อทำร้ายตบตีแม่เป็นประจำ
เมื่อโตขึ้น อายุประมาณ 13-14 ปี ก็ถูกพ่อใหม่ใจโหดข่มขืน ขณะที่แม่หลับ
และแล้วก็เริ่มมีความรักกับเพื่อนชาย หลายต่อหลายคน ชีวิตผกผัน
เมื่อโตขึ้น อายุประมาณ 13-14 ปี ก็ถูกพ่อใหม่ใจโหดข่มขืน ขณะที่แม่หลับ
และแล้วก็เริ่มมีความรักกับเพื่อนชาย หลายต่อหลายคน ชีวิตผกผัน
เดินหลงทางเข้าสู่ความมืดมิด... กลายเป็นหญิงขายบริการ เป็นนักเต้นคาบาเร่
นุ่งน้อย... ห่มน้อย... หาความสุขอะไรไม่ได้เลย และก็... ติดเชื้อ HIV ในที่สุด
แต่ผู้หญิงคนนี้ ณ ตอนนี้... ได้แต่ร้องไห้ เสียใจอย่างที่สุด
ภาพย้อนกลับ ย้อนกลับไปยังเมื่อคราวที่พ่อกับแม่แต่งงานกัน
เด็กน้อยเห็นภาพความรักของพ่อกับแม่ อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น...
โตมาเมื่ออายุ 13-14 ปี ก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหนังสือ คบเพื่อนที่ช่วยกันเรียน
ชีวิตเปลี่ยน เปลี่ยนไปจากภาพเดิม... มากๆ เรียนจนจบปริญญา
ครอบครัวดีใจ... มีความสุขกันทั้งครอบครัว... จนเมื่อทราบข่าวจากหมอว่า
เธอผู้นี้ท้อง... บรรยากาศแตกต่างจากช่วงแรกของ MV มากคือ
ทุกคนมีความสุขที่รู้ว่าเธอท้องแล้ว... ดีใจและขอบคุณความรักที่ทุกคนให้มา...
นี่แหละ... How to love ที่ MV นี้พยายามสื่อออกมาให้ตรงกับเนื้อหาของเพลง
ลึกซึ้งกินใจมากๆ เป็นแง่คิดที่ดีสำหรับหลายๆ คนได้เลย การมีรักแบบไม่ได้เลือก
กับ การมีรักแบบที่ได้เลือกมาแล้วนั้นแตกต่างกัน ความรักแบบไหนที่เราควรมี
เราควรรักอย่างไร ครอบครัวถึงจะอบอุ่น มีความสุขกันถ้วนหน้า... ก็ขึ้นอยู่กับเรานี่แหละ
ว่าจะ manage HOW TO LOVE? นั้นให้เป็นไปในทางไหน? ^^
ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งสิ่งที่เราจะสามารถเรียนรู้ได้ก็คือ เวลา ไม่เคย ย้อนกลับได้
อย่างใน MV เราไม่สามารถย้อนกลับไปสู่อดีต เพื่อเปลี่ยนสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว
หรือสิ่งที่ที่เราเลือกมาแล้วในอดีตเหมือนใน MV เพราะฉะนั้นแล้ว ทำทุกวินาทีให้ดีที่สุด
ให้มีค่าที่สุด ข้อควรจดจำก็คือ เมื่อเราเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราก็จะต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่งเสมอ
ไม่มีทางที่จะรักษาของทั้งสองสิ่งไว้ พร้อมๆ กันได้อย่างแน่นอน เมื่อเลือกแล้ว ก็ต้อง
ยอมรับสภาพตามความเป็นจริง ยอมรับกับการได้มา และยอมรับกับการสูญเสียไปพร้อมๆ กัน
และแน่นอนว่าความเป็นจริงแล้ว ชีวิตไม่มีทางเดินถอยหลังกลับเข้าสู่วัยเด็กได้
มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย... ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง... ไม่มีความเที่ยงแท้เลย...
... ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน ...
จงจำไว้เสมอว่า... "ชีวิตนั้น มี 2 ทาง คือ ทางที่เราเลือกที่จะเดิน กับ ทางที่เราไม่เลือกที่จะเดิน"
และทางที่เราตัดสินใจเลือกเดินไปแล้วนั้น ควรเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับเรา เพื่ออนาคตของตัวเราเอง
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ "เวลาไม่เคยย้อนกลับ"
เพราะฉะนั้น การที่เราจะทำอะไรลงไป ทุกการกระทำจะมีผลกับตัวเราเสมอ
แต่ผลของการกระทำนั้นจะดี หรือ ร้าย ก็ขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่เราทำลงไปนั้น
ดีแล้ว หรือ ว่า แย่ มากแค่ไหน แน่นอนว่า ใครๆ ก็อยากมีอนาคตที่ดีๆ ทั้งนั้น
ถ้าอยากมีอนาคตที่ดีๆ ให้ทำยังไง? ก็ต้องเป็น คนดี คิดดี พูดดี และทำดี น่ะสิ :D
ใครจะว่ายังไง สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน ก็ไม่สนใจ
เข้าสังคมได้ แต่ไม่คลุกคลี หรือเข้าไปจมอยู่กับสิ่งนั้นๆ จนมากเกินไป...
และ ยังคงเป็นคนดีต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่า ไม่ช้า.. ก็เร็ว... ความดีย่อมส่งผลแน่นอนค่ะ